Hyaluronic Acid (HA) หรือ ไฮยาลูโรนิก เป็นสารธรรมชาติที่พบได้ในร่างกายของเรา โดยพบได้ในผิวหนังชั้นหนังแท้ ตามไขข้อในร่างกาย รวมไปถึงในดวงตา HA จึงมีบทบาทสำคัญในเรื่องความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นของผิวหนัง Hyaluronic Acid มีคุณสมบัติในการกักเก็บน้ำได้ดีเยี่ยม สามารถอุ้มน้ำได้ถึง 1,000 เท่าของน้ำหนักตัวเอง แต่เมื่อเรามีอายุที่มากขึ้น โดยเฉพาะอายุ 20 ปีขึ้นไป การผลิต HA ในผิวก็จะน้อยลงตามกาลเวลา จึงส่งผลให้ผิวพรรณของเรามีริ้วรอยและมีความหย่อนคล้อยมากขึ้น รวมไปถึงด้านสุขภาพต่างๆ เช่น กระดูกไขข้อต่างๆ ที่เสื่อมไปตามกาลเวลา น้ำในตาแห้งมากขึ้น เมื่อเจอแสงจ้าหรือจ้องจอนานๆ

ด้วยเหตุเหล่านี้ จึงทำให้ Hyaluronic Acid มันเป็นส่วนผสมที่สำคัญในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและดูแลสุขภาพหลากหลายประเภท 

ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันดีกว่าว่า Hyaluronic Acid คืออะไร และมีประโยชน์อย่างไรบ้าง ?

Hyaluronic Acid คืออะไร?

Hyaluronic Acid เป็นสารประกอบประเภทไกลโคสะมิโนไกลแคน (glycosaminoglycan) ซึ่งเป็นโมเลกุลใหญ่ที่ประกอบด้วยน้ำตาลชนิดหนึ่งที่เชื่อมต่อกันเป็นสายยาว พบได้ทั่วไปในเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน เช่น ผิวหนัง ไขข้อ ข้อต่อตามร่างกาย และในดวงตา ส่งผลช่วยให้มีความหล่อลื่นมากขึ้น

ในชั้นผิวหนังชั้นหนังแท้ (Dermis) มีหน้าที่สำคัญในการกักเก็บน้ำ กักเก็บความชุ่มชื้นและรักษาความยืดหยุ่นของผิว เมื่อเราอายุมากขึ้น ระดับของ Hyaluronic Acid ในผิวจะลดลง ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวแห้งกร้าน สูญเสียความยืดหยุ่น และเกิดริ้วรอย 

 

นำ Hyaluronic Acid ไปใช้ในเรื่องใดบ้าง?

ในช่วงแรก Hyaluronic Acid ได้คิดค้นมาเพื่อการรักษาก่อน ได้นำมาในรูปแบบของยาฉีด ไว้เพื่อรักษาเกี่ยวกับ ข้อเข่าเสื่อ ข้อต่ออักเสบ รวมไปถึงการซ่อมแซมของจอประสาทตา

และหลังจากนั้นได้มาใช้ในด้านผิวพรรณ เนื่องจากในชั้นผิวของเรา ปัจจัยที่ทำให้ผิวแห้งกร้าน เหี่ยวหย่อน ขาดความชุ่มชื่น มักจะมาจะส่วนประกอบหลักๆ คือ ไฮยาลูโรนิก คอลลาเจน และอีลาสติน จึงทำให้มีการนิยมใช้ Hyaluronic Acid อย่างมากในการบำรุง ฟื้นฟูผิวพรรณ

 

Hyaluronic Acid กับผิวพรรณ

ผิวที่แข็งแรง มักมีพื้นฐานมาจากความชุ่มชื้น ซึ่งจะขาด Hyaluronic Acid ไปไม่ได้เลย หากขาดไปจะส่งผลให้ผิว แห้งกร้าน ผิวหมองคล้ำ ผิวแร่เร็วทำให้เกิดริ้วรอย ร่องลึกต่างๆ Hyaluronic Acid จึงช่วยแก้ปัญหาผิวไม่เรียบเนียน ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นได้ดี และช่วยให้ผิวแข็งแรง พยุงโครงสร้างผิวไว้ ให้ผิวแน่นมากยิ่งขึ้น

 

คุณสมบัติเด่นของ Hyaluronic Acid

  1. ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น Hyaluronic Acid เป็นสารที่สามารถอุ้มน้ำได้อย่างมหาศาล ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ นุ่มนวล และสุขภาพดี นอกจากเรื่องผิวแล้วยังช่วยในส่วนของข้อต่อให้มีน้ำหล่อลื่น และในดวงตาให้ดวงตาไม่แห้ง ขาดน้ำ
  2. ช่วยลดเลือนริ้วรอย เมื่ออายุมากขึ้น ผิวหนังจะสูญเสียความสามารถในการกักเก็บความชุ่มชื้นและการสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอย การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี Hyaluronic Acid สามารถช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้น ช่วยชะลอริ้วรอยได้ ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและอ่อนเยาว์ขึ้น
  3. ฟื้นฟูผิวที่เสียหาย Hyaluronic Acid มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างเนื้อเยื่อใหม่และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูผิวที่เสียหายและทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น 
  4. ปกป้องผิวจากมลภาวะ Hyaluronic Acid ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันผิวจากสิ่งสกปรกและมลภาวะที่เป็นอันตราย ช่วยให้ผิวมีความแข็งแรงและสามารถรับมือกับสิ่งแวดล้อมที่เป็นอันตรายได้ดีขึ้น
  5. ช่วยลดการอักเสบ ในการบำบัดรักษาโรค Hyaluronic Acid ช่วยลดอาการปวดกล้ามเนื้อ ปวดบริเวณข้อต่อ รวมไปถึงมีการใช้ในระหว่างการผ่าตัดดวงตาอีกด้วย

 

Hyaluronic Acid ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว Hyaluronic Acid มีหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทมีคุณสมบัติและการทำงานที่แตกต่างกัน

  1. Sodium Hyaluronate เป็นรูปแบบหนึ่งของ Hyaluronic Acid ที่มีโมเลกุลขนาดเล็กกว่า สามารถซึมซาบเข้าสู่ชั้นผิวได้ลึกขึ้น ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  2. Hydrolyzed Hyaluronic Acid เป็น Hyaluronic Acid ที่ผ่านกระบวนการไฮโดรไลซิส ทำให้มีโมเลกุลขนาดเล็กมาก สามารถซึมเข้าสู่ชั้นผิวได้ลึกที่สุด ช่วยเติมเต็มและรักษาความชุ่มชื้นในผิวได้อย่างล้ำลึก
  3. Hyaluronic Acid ขนาดใหญ่ เป็นรูปแบบ Hyaluronic Acid ที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ ทำหน้าที่สร้างฟิล์มบางๆ บนผิว เพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำและปกป้องผิวจากมลภาวะ

 

วิธีการใช้ Hyaluronic Acid เพื่อประโยชน์สูงสุด

การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี Hyaluronic Acid ควรทำอย่างถูกต้องเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

  1. ทาบนผิวที่ชุ่มชื้น 

Hyaluronic Acid ทำงานได้ดีที่สุดเมื่อทาลงบนผิวที่มีความชื้น ควรทาผลิตภัณฑ์ Hyaluronic Acid หลังจากล้างหน้าและเช็ดให้แห้งแต่ยังมีความชื้นเล็กน้อย เพื่อช่วยให้สารซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น

  1. ใช้เป็นขั้นตอนแรกของการบำรุงผิว 

การใช้ Hyaluronic Acid เป็นขั้นตอนแรกในการบำรุงผิวช่วยให้สารสามารถซึมเข้าสู่ผิวได้มากที่สุด ก่อนที่จะทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอื่นๆ

  1. ตามด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ 

หลังจากทา Hyaluronic Acid ควรใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นในผิว และป้องกันการสูญเสียน้ำ

  1. ใช้อย่างสม่ำเสมอ 

เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี Hyaluronic Acid อย่างสม่ำเสมอ เช้าและเย็น

  1. รวมขั้นตอนด้านบน ทั้ง 4 ข้อ มาไว้ในขั้นตอนเดียว 

ด้วยการใช้ All Clean And Beauty Water ที่มีส่วนประกอบของน้ำค้างธรรมชาติ ที่สามารถช่วยนำพาสารบำรุงผิวต่างๆ ลงเข้าไปสู่ผิวชั้นลึกกว่าได้ พร้อมกับสารบำรุงความชุ่มชื้นมากมายที่ช่วยให้ผิวแข็งแรง สุขภาพดีได้อย่างแท้จริง

 

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ Hyaluronic Acid

แม้ว่า Hyaluronic Acid จะเป็นส่วนผสมที่มีประโยชน์มากมาย แต่ก็ยังมีความเข้าใจผิดอยู่

  1. ทำให้อุดตันรูขุมขน มีความเชื่อว่าผลิตภัณฑ์ที่มี Hyaluronic Acid จะทำให้รูขุมขนอุดตัน แต่ความจริงคือ Hyaluronic Acid เป็นสารที่มีน้ำหนักโมเลกุลเบาและไม่อุดตันรูขุมขน ทำให้เหมาะกับทุกสภาพผิว รวมถึงผิวมันและผิวแพ้ง่าย
  2. ทำให้ผิวแห้งมากกว่าเดิม แม้ว่า Hyaluronic Acid จะมีคุณสมบัติในการกักเก็บน้ำ แต่หากใช้ในสภาพอากาศที่แห้งมาก หรือไม่มีการตามด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ อาจทำให้ผิวรู้สึกแห้งได้ เนื่องจาก Hyaluronic Acid จะดึงน้ำออกจากชั้นผิวเอง ดังนั้นจึงควรใช้ในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือใช้ร่วมกับมอยส์เจอร์ไรเซอร์

 

Hyaluronic Acid ในผลิตภัณฑ์บำรุงอื่นๆ

นอกจากผลิตภัณฑ์ดูแลผิวแล้ว Hyaluronic Acid ยังถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกาย เช่น  ครีมกันแดด มาส์กบำรุงผิว และยังพบได้ในผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม เช่น แชมพูและคอนดิชันเนอร์ เนื่องจากคุณสมบัติในการกักเก็บความชุ่มชื้นที่ดีเยี่ยม

 

การเลือกผลิตภัณฑ์ที่มี Hyaluronic Acid

เมื่ออยากใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี Hyaluronic Acid ควรพิจารณาถึงส่วนประกอบอื่นๆในผลิตภัณฑ์ เพื่อให้แน่ใจว่าเหมาะสมกับสภาพผิวของเรา และหากต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่สามารถช่วยในการซึมซาบที่ดีขึ้น 

 

โดยสามารถเลือก All Clean And Beauty Water ที่ช่วยให้ความงามเป็นเรื่องง่ายขึ้น

All Clean And Beauty Water หรือ น้ำค้างขวดเขียว เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวพร้อมบำรุงในหนึ่งเดียว ด้วยสามารถใช้เป็น  Cleansing, Toner, Serum, Brightening, 

Moisturizer และ Sleeping Mask ในเช็ดเดียว มีส่วนผสมหลักจากน้ำค้างบริสุทธิ์ ที่ช่วยนำพาสารสกัดต่างๆบำรุงได้ล้ำลึกถึงเซลล์ผิว ด้วยการผสานกับนวัตกรรมจากธรรมชาติต่างๆ และ Hyaluronic Acid สามารถช่วยทำความสะอาดผิวได้อย่างล้ำลึก รวดเร็ว แบบไม่ต้องใช้น้ำ พร้อมลดไขมันและการอุดตันของรูขุมขน จึงทำให้ผิวสามารถบำรุงได้อย่างเต็มที่ ให้ผิวเนียนนุ่ม อิ่มน้ำ สุขภาพดี ที่สำคัญมีความอ่อนโยน ปลอดภัย ใช้งานได้กับทุกสภาพผิวแม้ผิวบอบบางแพ้ง่าย

 

และใน เซรั่มกันแดด Geranium Sense จากแบรนด์ DEWellness

ที่สุดของนวัตกรรมการปกป้องผิว พร้อมบำรุงผิวในหนึ่งเดียว เซรั่มกันแดด Geranium Sense ที่มีฟิลเตอร์ที่สามารถปกป้องผิวจากทุกรังสี และในทุกๆความยาวคลื่น แม้คลื่นแสงที่อันตรายต่อผิวที่สุด พร้อมบำรุงผิว เติมเต็มความชุ่มชื้นให้เซลล์ผิวแข็งแรง อีกทั้งยังปกป้องผิวจากมลภาวะต่างๆ ทั้งฝุ่นละออง สารพิษ และที่สำคัญจากแสงแดด จึงทำให้เป็นเซรั่มกันแดดที่คนรักผิวควรมี

 

Hyaluronic Acid เป็นสารที่มีประโยชน์อย่างมากต่อผิว ไม่ว่าจะเป็นการกักเก็บความชุ่มชื้น ลดเลือนริ้วรอย หรือฟื้นฟูผิวที่เสียหาย ด้วยคุณสมบัติที่อ่อนโยนและปลอดภัย Hyaluronic Acid จึงเป็นส่วนผสมที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวทุกประเภท เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี Hyaluronic Acid อย่างสม่ำเสมอ และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับเรามากที่สุด