“น้ำค้างบริสุทธิ์” มหัศจรรย์ทรงคุณค่า กลั่นตัวขึ้นจากกระบวนการทางธรรมชาติ ท่ามกลางทุ่งหญ้าบนเขาใหญ่ อุดมด้วยออกซิเจนที่รังสรรค์จากพฤกษาธรรมชาติ จึงสามารถผสานเป็นหนึ่งเดียวกับผิวอย่างง่ายดาย ให้ความรู้สึกบางเบาอ่อนโยนเหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวแพ้ง่าย ซึมซาบลงสู่ผิวอย่างรวดเร็ว เพิ่มความชุ่มชื้นได้ในทันทีที่สัมผัส

ช่วยให้ผิวหน้าดูเรียบเนียน กระจ่างใส
พร้อมสำหรับการบำรุงในขั้นตอนต่อไป

ประโยชน์ของสเปรย์น้ำค้าง DEWellness ELIXIR

  1. น้ำค้างบริสุทธิ์จาธรรมชาติ เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวแพ้ง่าย
  2. สูตรบางเบา ซึมซาบลงสู่ผิวอย่างรวดเร็ว เพิ่มความกระจ่างใสให้ผิวหน้า
  3. มอยเจอร์ไรเซอร์ธรรมชาติ ช่วยเสริมสร้างอีลาสติน (Elastin) ใต้ผิวหนัง เพิ่มความชุ่มชื้น ให้แก่ผิวได้ในทันทีที่สัมผัส
  4. ช่วยกระชับรูขุมขน ทำให้รูขุมขนเล็กลง ผิวเรียบเนียน
  5. ป้องกันการเกาะตัวของฝุ่นละออง และสิ่งสกปรกบนใบหน้าและรูขุมขน
  6. ช่วยลดการสะสมและยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว

“น้ำค้างบริสุทธิ์” มีความสามารถในการทำละลายสูง (solubility) สามารถช่วยทำละลายผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่าง ๆ เช่น ครีม เซรั่ม ให้มีขนาดเล็กลง จนสามารถซึมลึก สู่ผิวหน้าได้ง่ายและมากกว่าปกติ

“น้ำค้างบริสุทธิ์” เป็นระบบนำพา (delivery system) สามารถ ช่วยนำพา ครีม เซรั่ม ให้ซึมลึกลงสู่ชั้นผิวได้ เป็นอย่างดี ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบำรุง

“น้ำค้างบริสุทธิ์” มีโครงสร้างขนาดเล็ก สามารถยึดโมเลกุลของเครื่องสำอางให้ คงรูปได้ดี จึงช่วยให้เครื่องสำอางเซต ตัวเร็วขึ้น และติดทนนานมากขึ้น

“น้ำค้างบริสุทธิ์” มีออกซิเจนธรรมชาติที่ช่วยยับยั้ง แบคทีเรียบางชนิด และกระชับรูขุมขน ไม่ให้ เกิดการอุคตันของไขมันบน

“น้ำค้างบริสุทธิ์” มีค่าการนำไฟฟ้าต่ำมาก และไม่มีขั้วไฟฟ้า เมื่อฉีดบนผิว จะไม่ทำให้ผิวเกิดไฟฟ้าสถิต ช่วยลดโอกาสที่ฝุ่นละอองหรือสิ่งสกปรกต่าง ๆ เกาะติดบนผิว ลดความเสี่ยง ในการเกิดสิวและริ้วรอยต่างๆ

“สเปรย์น้ำค้างบริสุทธิ์” เป็นบูสเตอร์ธรรมชาติที่ช่วยบูส Skincare และ Cosmetics ของคุณให้สวยมากขึ้น สวยนานขึ้น มั่นใจมากขึ้น

ฉีดสเปรย์น้ำค้างห่างจากใบหน้าประมาณ 15 ซม. ปล่อยให้ละอองน้ำค้างซึมซาบลงสู่ผิว โดยไม่ต้อง เช็ดออก สามารถใช้ได้ทั้งก่อนและหลังแต่งหน้า และ ฉีดบ่อยเท่าไหร่ก็ได้ตามที่คุณต้องการ

วิธีใช้สเปรย์น้ำค้าง DEWellness ELIXIR normalizing facial mist

  • ฉีดสเปรย์น้าค้างเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นได้ตามต้องการ
  • ฉีดสเปรย์น้ำค้างก่อนแต่งหน้า ช่วยให้เครื่องสำอางติดเนียนขึ้น
  • ฉีดสเปรย์น้ำค้างหลังแต่งหน้า ช่วยทำให้เครื่องสำอางเซ็ตตัวเร็วขึ้น และติดทนนานมากขึ้น
  • ฉีดสเปรย์น้ำค้างก่อน หรือระหว่างออกแดด ช่วยป้องกันผิวหน้า รักษาระดับความชุ่มชื้นของ ผิวหน้า
  • ฉีดสเปรย์น้ำค้างหลังล้างหน้า ช่วยคืนความชุ่มชื้นให้กับผิว และไม่ทำให้ผิวคล้าเสีย
  • ฉีดสเปรย์น้ำค้างบริเวณที่เป็นสิว ช่วยลดการอักเสบและยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย

When to Use

ก่อนการแต่งหน้า

เมื่อเป็นสิว

หลังล้างหน้า

หลังการโกนหนวด

ก่อนออกแดด

หลังการทำเลเซอร์

ระหว่างการทำงาน

หลังการแว็กซ์ขน

เมื่อเป็นแผล

หลังล้างเครื่องสำอาง

ระหว่างการท่องเที่ยว

หลังออกกำลังกาย

When to Use

ก่อนการแต่งหน้า

เมื่อเป็นสิว

หลังการโกนหนวด

หลังล้างหน้า

ก่อนออกแดด

หลังการทำเลเซอร์

ระหว่างการทำงาน

หลังการแว็กซ์ขน

เมื่อเป็นแผล

หลังล้างเครื่องสำอาง

ระหว่างการท่องเที่ยว

หลังออกกำลังกาย

Lab Test

ความสามารถในการทำละลายของน้ำค้าง DEWellness

จากผลการทดลองพบว่า “น้ำค้าง” มีค่าความสามารถในการทำละลายสารสูงที่สุดเมื่อเทียบกับน้ำ ชนิดอื่นๆ คือ 1.05 เมื่อเทียบกับตัว Control คือ น้ำกลั่น จึงสรุปได้ว่า น้ำค้างมีความสามารถ ในการทำละลายได้ดีที่สุด ดังนั้น เมื่อดื่มน้ำค้างร่างกายจะสามารถดูดซึมไปใช้ได้ดีกว่าน้ำทุกชนิด

ตัวอย่างน้ำ

ค่าการดูดกลืนแสง

ความสามารถในการละลาย

ABSORBANCE

AVERAGE

0.3598

น้ำกลั่น

0.3572

0.3489

1.00

0.3296

0.3118

น้ำดื่ม

0.3364

0.3205

0.92

0.3126

0.3096

น้ำแร่

0.3031

0.3082

0.88

0.3119

น้ำค้าง

0.3619

0.3656

1.05

ตารางผลการหาความสามารถในการละลายยา THEOPHYLLINE

ค่าการนำไฟฟ้าของน้ำค้าง DEWellness

น้ำบริสุทธิ์ที่ปราศจากสิ่งปนเปื้อนจะไม่มี “ความสามารถในการนำไฟฟ้า” คือ มีค่าการนำไฟฟ้า ต่ำมาก ดังนั้นจากผลการทดลองพบว่า ค่าการนำไฟฟ้าของน้ำทั่วไปจะมีค่ามากกว่า 200 ไมโคร ซีเมนส์ต่อเซนติเมตร ( S/cm) ซึ่งแสดงถึงปริมาณของสารประกอบไอออนิกที่ละลายอยู่ในน้ำ ปริมาณสูง ส่วนน้ำค้างและน้ำกลั่นมีค่าการนำไฟฟ้าเท่ากับ 2.2 และ 0.5 ตามลำดับ ซึ่งถือว่ามีค่า ต่ำมาก

จึงสรุปได้ว่า น้ำค้างมีความบริสุทธิ์สูงและไม่มีการปนเปื้อนของสารไอออนิก หรือสิ่งเจือปนอื่นๆ จึงสามารถเข้าผสานกับแร่ธาตุและสารต่าง ๆ จากอาหารได้ดีขึ้น โดยเฉพาะ “ยา” เมื่อผู้ป่วย ทานน้ำค้างร่วมกับยา จะช่วยให้ยาสามารถย่อย และดูดซึมได้ดีขึ้น สามารถลดจำนวนยาที่ทานลง และลดความเสี่ยงจากการทานยาปฏิชีวนะปริมาณมากๆ

ตัวอย่างน้ำ

สภาพการนำไฟฟ้า (US / cm)

ค่าความเป็นกรด-ด่าง

น้ำกลั่น

0.5

6.00

น้ำดื่ม

>200

7.07

น้ำแร่

<200

6.75

น้ำค้าง

2.2

7.44

ตารางแสดงค่าการนำไฟฟ้า และค่าความเป็นกรด-ด่าง ของตัวอย่างน้ำชนิดต่าง ๆ

ค่าแรงตึงผิวและมุมสัมผัส (Surface Tension and Contact angle)ของน้ำค้าง DEWellness

จากการทดลองพบว่าน้ำค้างให้ค่าแรงตึงผิวต่ำที่สุดคือ 72.56 นอกจากนี้ยังมีค่ามุมสัมผัสของ น้ำค้างบนพื้นผิวที่เป็นกระจกมีค่าต่ำ คือ 20.13 องศา และให้ค่ามุมสัมผัสบนพื้นผิวเทฟลอนสูง คือ 94.39 องศา สรุปได้ว่าน้ำค้างมีคุณสมบัติในการเป็นตัวทำละลายสูง เมื่อเทียบกับตัวอย่าง น้ำชนิดอื่น ๆ และน้ำค้าง มีขั้วสูงกว่าน้ำประเภทอื่น ๆ จึงเป็นตัวทำละลายของสารมีขั้วที่ดี ซึ่งผล ที่ได้สอดคล้องกับค่าการละลายของยา Theophylline ในน้ำค้าง ทั้งนี้สาเหตุที่น้ำค้างมีคุณสมบัติ ในการเป็นตัวทำละลายที่ดีของสารมีขั้ว เป็นผลมาจากน้ำค้างเป็นน้ำที่มีความบริสุทธิ์สูงและมีโครง สร้างน้ำขนาดเล็กจึงสามารถดูดซึมสู่ร่างกายได้อย่างรวดเร็ว

ตัวอย่างน้ำ

ค่าแรงตึงผิว

ค่ามุมสัมผัส

กระจก

เทฟลอน

น้ำกลั่น

72.96

20.68

93.23

น้ำดื่ม

75.67

23.49

92.44

น้ำแร่

73.26

27.29

90.83

น้ำค้าง

72.56

20.13

94.39

ตารางแสดงค่าแรงตึงผิว และมุมสัมผัสของน้ำชนิดต่าง ๆ

การประเมินความเป็นพิษต่อเซลล์ (Cytotoxicity Test)

จากการทดสอบความเป็นพิษต่อเซลล์ของตัวอย่างน้ำค้าง โดยการเตรียมความเข้มข้นของน้ำที่ใช้ ทดสอบ 5 ระดับ คือ 0%v/v (คือ Negative Control ซึ่งมีแต่เซลล์ที่อยู่ในอาหารเลี้ยงเซลล์ และ ไม่ใส่ตัวอย่างน้ำ), 25, 50, 75 และ 100%v/v (ทำการเจือจางด้วยอาหารเลี้ยงเซลล์ที่ไม่ใส่ซีรั่ม) พบว่าน้ำค้างที่มี ความเข้มข้น 0, 25, 50 และ 75 %v/v ไม่เป็นพิษต่อเซลล์เพาะเลี้ยงที่ใช้ทดสอบ เนื่องจากไม่ทำให้เซลล์ตายเกิน 50% ของเซลล์ทั้งหมด

ความสัมพันธ์ระหว่างจำนวนเซลล์ ที่รอดชีวิต (%Cell Viability) กับค่าความเข้มข้นของน้ำค้าง (%v/v)
ลักษณะของเซลล์เพาะเลี้ยง HepG2 ที่สังเกตเห็นภายใต้กล้องจุลทรรศน์ชนิด Inverted Microscope เมื่อทำการทดสอบด้วย น้ำค้างที่มีความเข้มข้น 100%v/v